ถุงมือไนไตร: จะเลือกซื้ออย่างไรดี?

เราทราบกันแล้วว่า ถุงมือยางแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน. ขึ้นกับวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น ถ้าคุณต้องการถุงมือที่ไม่สร้างอาการแพ้ ไม่ว่าจะอาการแพ้แป้ง แพ้ยาง แพ้โปรตีน ทนทานต่อสารเคมี พวก กรด เบส น้ำมัน ต่างๆ เหนียว ทน ไม่ฉีกขาด ไม่แตกง่าย ผมว่าในกรณีอย่างนี้ ถุงมือที่เหมาะสมน่าจะเป็นถุงมือยางไนไตร เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการถุงมือไนไตรดีๆสักคู่ คุณก็ต้องการถุงมือที่ทนทานสามารถทนทานต่อการใช้งานหนักๆได้ และป้องกันมือคุณได้ดีตลอดการทำงาน ในปัจจุบันมีโรงงานผลิตถุงมือไนไตร ได้ผลิตถุงมือไนไตรจำนวนมากหลายแบบ หลายสี และหลายยี่ห้อ ซึ่อแต่ละเจ้าผู้ผลิต ก็สามารถผลิตถุงมือยางไนไตรที่ดี และปกป้องมือคุณได้เหมือนๆกันแล้วเราจะเลือกถุงมือไนไตรที่เหมาะกับเราที่สุดได้อย่างๆไร?
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อถุงมือยางไนไตร เราต้องดูว่าถุงมือนั้นเหมาะกับงานเราหรือเปล่า เหมาะกับอุตสาหกรรมที่เราทำงานอยู่หรือเปล่า มีหลายปัจจัยมากครับ ที่จะดุว่าถุงมือไนไตรเหมาะกับเราหรือพนักงานเราที่ต้องสวมใส่ แน่นอนครับเราต้องการถุงมือไนไตรที่ดีที่สุดเพื่อให้เราผลิตงานออกมาได้ดีที่สุด ปัจจัยหนึ่งซึ่งคนมักจะมองข้ามแต่มีความสำคัญมากคือ ความคล่องตัวในขณะทำงาน ถุงมือกระชับมือหรือไม่? นอกเหนือจากถุงมือยางไนไตรนั้นทนต่อสารเคมีต่างๆที่ต้องสัมผัสหรือไม่ เพราะหากถุงมือไนไตรหลวมไป นอกจากสร้างความรำคาญแล้ว โอกาสที่สารเคมีจะสัมผัสมือโดยตรงก็อาจมีได้ หรือถ้าคับไป ก็จะทำให้มือล้า ทำงานได้ยากอีกเช่นกันครับ แต่เดิม เป็นที่ทราบกันดีว่าถุงมือยางไนไตรจะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าถุงมือยางธรรมชาติหรือถุงมือแพทย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอในช่วงแรกๆของการผลิตถุงมือไนไตร แต่ในปัจจุบันถุงมือไนไตร เป็นชนิด NBR หรือ Nitrile butadiene Rubber ได้พัฒนาเพื่อให้ใกล้เคียงกับถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติมากที่สุด คงคุณสมบัติต่างๆของถุงมือยางไนไตรได้ครบถ้วน ปัจจัยต่อมาที่ต้องพิจารณาคือระดับความทนทานทางเคมี แน่นอนครับถุงมือไนไตรถูกผลิตมาเพื่อการนี้ ซึ่งแต่จ่างจากถุงมือแพทย์ที่จะละลายแทบจะทันที่ที่สัมผัสน้ำมันต่างๆ เราต้องพิจารณาว่าเราต้องให้ในงานแบบไหน ถุงมือควรหนาเท่าไหร่ เช่นถ้าต้องใช้ในงานที่สัมผัสสารเคมีแรงๆ เราอาจต้องใช้ถุงมือไนไตรแบบหนาพิเศษ อาจจะประมาณ 15 มิล. แต่ถ้าใช้งานที่ไม่ต้องป้องกันอะไรมาก เช่น งานขุดดิน ทาสี บางที่ แค่ 4 มิล ก็น่าจะพอ เราไม่ควรเลือกแบบหนาเข้าไว้นะครับ เพราะถุงมือไนไตรยิ่งหนายิ่งแพง เราอาจเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ปัจจัยที่สามที่เราต้องคำนึงความทนทานทางกายภาพ เช่นความเหนียว ความแข็งแรง ทนต่อการฉีกขาด ถูกเจาะทะลุ ลองนึกภาพการทำงานนะครับ เราอาจต้องใช้ถุงมือไนไตรกับงานทางกายภาพ เช่นจับชิ้นงานที่อาจจะแหลมคม หรือสวมถุงมือบิดชิ้นงาน ถ้าถุงมือไม่เหนียวก็อาจจะฉีกขาดได้ง่าย อันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องความปลอดภัพพนักงงานเท่านั้น อาจรวมไปถึงต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยครับ นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ราคาก็เป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา คือราคา การได้ถุงมือไนไตรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและยังเป็นถุงมือไนไตรราคาถูก ทำให้คุณประหยัดมากขึ้นที่เดียว เพราะปกติคนทั่วไปจะทิ้งถุุงมือชนอดใช้แล้วทิ้งบ่อยมาก ถ้าเอาจำนวนคนคูณด้วยถุงมือและคูณด้วยจำนวนครั้งที่ทิ้งในแต่ละวัน จะพบวาาค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงขึ้นมากทีเดียว หากคุณไม่สามารถหาถุงมือที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและราคาถูกได้ Siamglove.com สามารถแก้ปัญหานี้ได้ครับ เรามีถุงมือแพทย์ราคาถูก และถุงมือไนไตรราคาถูกไว้นำเสนอครับ
ท้ายสุด ถุงมือยางไนไตรในปัจจุบันมีให้เลือกหลายสี ทั้ง ถุงมือไนไตรสีขาว ถุงมือไนไตรสีฟ้า ถุงมือไนไตรสีเขียว และ ถุงมือไนไตรสีม่วง ซึ่งคุณสมบัติแต่ละสีมักจะไม่ต่างกัน ยกเว้นแต่มาจากผู้ผลิตคนละที่ การที่ถุงมือยางไนไตรมีหลากสี คุณสามารถเลือกสีที่สามารถตอบสนองความต้องการได้หลากหลายมากชึ้นด้วยครับ

Similar Posts

  • ถุงมือไนไตร : แล้วคุณจะลืมเรื่องการแพ้ยางไปเลย!

    สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็คือถุงมือยาง หรือถุงมือแพทย์ตามแต่จะเรียก คุณคงรู้ทันทีเลยว่าถุงมือแพทย์มีหน้าที่ป้องกันอันตรายขอเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ดังนั้นการเลือกใช้ถุงมือยางที่ดีที่สุด ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้ถุงมือที่สามารถป้องกันมือได้ดีที่สุด หนึ่งในถุงมือแพทย์นอกจากถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติแล้ว ก็คือถุงมือไนไตร ถุงมือยางในท้องตลาดทุกวันนี้มีมากมายหลายยี่ห้อ หลายแบบ แน่นอนครับ มันอาจจะยากสำหรับคุณ สำหรับผมในการที่จะเลือกซื้อถุงมือดีๆสักคู่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอันไหนดีที่สุด เพราะในการจะตัดสินใจเลือกซื้อสักครั้ง ก็จะมีปัจจัยต่างๆที่ต้องนำมาพิจารณา แน่นอนครับ หลักๆก็ได้แก่ ระดับการป้องกันที่เราต้องการ, ถุงมือฟิตพอดีมือไหม? และท้ายสุดคือ ราคาเท่าไหร่ (อันนี้ก็สำคัญไม่น้อย) ถุงมือยางธรรมชาติบางทีอาจก่อให้เกิดปัญหาอาการแพ้ ซึ่งมีหลายระดับตั้งแต่น้อย(ผื่นคัน) ไปจนถึงมาก(ช็อค หมดสติ) ดังนั้นในปัจจุบัน ผู้ใช้จึงหันมานิยมใช้ถุงมือไนไตรหรือถุงมือไวนิลกันมากขึ้น เนื่องจากถุงมือไนไตรและถุงมือไวนิลเป็นถุงมือจำพวก Latex Free คือไม่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติ ทำให้มีความปลอดภัยจากการแพ้ยางธรรมชาติ

  • ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล: อย่างไหนดีกว่ากัน

    ถงมือตรวจโรค ชนิดถุงมือใช้แล้วทิ้งทุกวันนี้ มีอยู่หลายประเภท แต่ที่เราพบบ่อยๆและมีลักษณะคล้ายๆกันก็จะเป็น ถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ (ทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง) ถุงมือไนไตร และถุงมือไวนิล นอกจากนี้คุณสมบัติก็คล้ายกันมาก จนแทบจะใช้งานแทนกันได้ในหลายๆฟังก์ชั่น จนบางทีผู้ใช้เองก็งง เพราะไม่รู้ว่าจะใช้แบบไหนดี ในบทความชิ้นนี้ ผู้เขียนเอง ก็คงไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่สามารถให้แนวทางคร่าวๆในการเปรียบเทียบได้ครับว่าเราควรจะเลือกใช้ถุงมือชนิดไหนในงานของเรา หรือสมบัติของถุงมือถุงมือชนิดไหนเหมาะกับเราที่สุด….

  • ถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ประเภทใช้แล้วทิ้ง

    ถุงมือตรวจโรค เป็นถุงมือที่ใช้อย่างแพร่หลาย มีหน้าที่ป้องกันผู้ป่วย หมอและพยาบาล บทความนี้จะช่วยให้เรารู้จักถุงมือชนิดนี้ให้มากขึ้น

  • ถุงมือแพทย์ : ชนิดใช้แล้วทิ้ง เอาไปใช้อะไร

    ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบสำคัญหลักในการผลิตถุงมือแพทย์ชนิดใช้แล้วท้ิง โดยสามารถนำไปผลิตถุงมือแพทย์มีแป้ง และถุงมือแพทย์ไม่มีแป้ง และส่วนผสมวัตถุดิบอืนของถุงมือแพทย์จะทำมาจากวัสดุธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสารเคมีอื่นๆที่ผสมลงไป เพื่อให้ได้ถุงมือแพทย์หรือถุงมือยางมา ถุงมือยางธรรมชาติชนิดใช้แล้วทิ้งนี้ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1894 หรือ พ.ศ. 2437 (100 ปีก่อน) และ W.S. Halsted เป็นนายแพทย์ชาวอเมริกันคนแรกที่สวมถุงมือแพทย์ชนิดฆ่าเชื้อเพื่อรักษาคนไข้

  • ถุงมือไนไตร : คืออะไร? เมื่อไหร่ควรใช้?

    ถุงมือไนไตร ประวัติและที่มา เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินถุงมือไนไตรมาบ้างนะครับ แม้ว่าบางท่านอาจไม่รู้จักมันเลย และเรียกชื่อผิดๆ เป็น ถุงมือไนโตร เพราะบ่อยครั้งมีบางท่านโทรมาถามว่า มีถุงมือไนโตร จำหน่ายหรือไม่ ก็คงไม่แปลกหากท่าน เรียกชื่อมันผิดๆถูกๆ เพราะเราไม่รู้คุ้นกับมันเท่าไหร่ เพราะถ้าเราพูดถึงถุงมือตรวจโรคชนิดใช้แล้วทิ้ง เกือบจะทุกท่านจะนึกถึงถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ เพราะเหตุผลหลายๆประการเช่น บ้านเราผลิตยางธรรมชาติได้มาก เราจึงคุ้นเคยกับยางธรรมชาติมากกว่ายางสังเคราะห์ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ มีมานานกว่า เราจึงรู้จักถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติได้ดีกว่า ถุงมือยางธรรมชาติ มีราคาถูกกว่า จึงมีใช้กันมากกว่า ไปที่ไหนก็เห็น เราจึงคุ้นเคยกับมันมากกว่า ถุงมือไนไตรเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1980 (ราวปี พ.ศ. 2523) โดย นายนิล ทีลลีสัน (Neil Tillitson) และ นายลุค เดอร์เบกเกอร์ (Luc DeBecker) ต่อมาในปี 1990 ได้มีการพัฒนาเทคนิดและกระบวนการผลิต และมีการจดสิทธิบัตรในปี 1991