ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล: อย่างไหนดีกว่ากัน

ถงมือตรวจโรค ชนิดถุงมือใช้แล้วทิ้งทุกวันนี้ มีอยู่หลายประเภท แต่ที่เราพบบ่อยๆและมีลักษณะคล้ายๆกันก็จะเป็น ถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ (ทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง) ถุงมือไนไตร และถุงมือไวนิล นอกจากนี้คุณสมบัติก็คล้ายกันมาก จนแทบจะใช้งานแทนกันได้ในหลายๆฟังก์ชั่น จนบางทีผู้ใช้เองก็งง เพราะไม่รู้ว่าจะใช้แบบไหนดี

ในบทความชิ้นนี้ ผู้เขียนเอง ก็คงไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่สามารถให้แนวทางคร่าวๆในการเปรียบเทียบได้ครับว่าเราควรจะเลือกใช้ถุงมือชนิดไหนในงานของเรา หรือสมบัติของถุงมือถุงมือชนิดไหนเหมาะกับเราที่สุด….

โดยพื้นฐานแรก เราต้องรู้จักคุณสมบัติของถุงมือชนิดต่างๆคร่าวๆก่อนครับ….

คุณสมบัติของถุงมือแพทย์ (ถุงมือยางธรรมชาติ) ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล

ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกใช้ถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร หรือถุงมือไวนิล เราต้องรู้คุณสมบัติคร่าวๆก่อนว่าถุงมือแต่ละแบบมีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร ซึ่งท่านสามารถหาอ่าน (search) ได้จากบทความเก่าๆ แต่เพื่อไม่ให้เยิ้นเย้อ ผู้เขียนขอสรุปคุณสมบัติคร่าวๆ (แบบไม่เรียงลำดับ) ดังนี้ครับ

ถุุงมือไนไตร

  • ทำจากโพลิเมอร์สังเคราะห์ (จากปิโตรเลี่ยม)
  • ไม่มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบ
  • ทนสารเคมีชนิดต่างๆ (กรด เบส แอลกอฮอล์ ตลอดจนน้ำมันต่างๆ)
  • ค่อนข้างแข็ง ยืดหยุ่นได้ไม่ดี ใส่ทำงานจะไม่คล่องตัวนัก
  • ค่อนข้างกระชับมือเวลาใส่
  • แข็งแรงไม่ขาดง่าย (ประมาณ 3 เท่าของถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ และถุงมือไวนิล ที่ความหนาเท่ากัน)
  • ไม่นำไฟฟ้า
  • ไม่ฆ่าเชื้อ
  • มีอายุการเก็บที่ยาวนานกว่าถุงมือแพทย์และถุงมือไวนิล
  • Defect น้อยกว่า (ผลิตออกมา จะพบของเสียน้อยกว่า)
  • มีหลายไซส์ หลายสีให้เลือก
  • ทนต่อการขัดสี
  • มีทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้งในท้องตลาด
  • สวมใส่ค่อนข้างยากกว่าถุงมือแพทย์และถุงมือไวนิล
  • เหมาะกับการใช้งานค่อนข้างหยาบ

ถุุงมือไวนิล

  • ทำจากไวนิลคลอไรด์
  • ไม่ค่อยจะกระชับมือเวลาใส่เท่าใดนัก
  • ไม่ค่อยแข็งแรง (level of protection ต่ำกว่าถุงมือแพทย์ และถุงมือไนไตร)
  • ใช้ในงานอาหาร โรงพยาบาลและอุตสาหกรรมต่างๆ
  • ราคาถูกกว่า ถุงมือแพทย์ และถุงมือไนไตร
  • ไม่ระคายเคือง
  • ไม่นำไฟฟ้า
  • ขาดง่าย ไม่ค่อยทนทาน
  • ไม่ฆ่าเชื้อ
  • มีอายุการเก็บสั้น
  • มีหลายไซส์ หลายสีให้เลือก
  • มีทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้งในท้องตลาด

ถุุงมือแพทย์

  • ทำจากยางพารา
  • ไม่ทนต่อสารเคมีแรงๆ (โดยอาจละลาย เหนียวเยิ้ม)
  • ยืดหยุ่นดี กระชับมือ ทำงานง่าย (ทำงานได้นาน ไม่เมื่อยมือ)
  • เหมาะกับงานละเอียด
  • มีโปรตีนเป็นส่วนผสม (อาจก่อนให้คนที่แพ้โปรตีน อาจระคายเคืองเมื่อสวมใส่)
  • ไม่นำไฟฟ้า
  • ไม่ฆ่าเชื้อ
  • ขาดง่าย ไม่ค่อยทนทาน เมื่อเทียบกับถุงมือไนไตร
  • เหมาะกับงานอาหาร ยา โรงพยาบาล อิเล็กทรอนิกส์
  • มีอายุการเก็บสั้น (ควรเก็บในที่มืด แห้ง เย็น เพื่อถนอมถุงมือ)
  • มีทั้งแบบถุงมือแพทย์มีแป้งและไม่มีแป้งในท้องตลาด
  • มีหลายไซส์ หลายสีให้เลือก

จะเห็นได้ว่า คุณสมบัติต่างๆ ของถุงมือแพทย์ ถุงมือไนไตร ถุงมือไวนิล มีความเด่นความด้อย แตกต่างกัน เราควรคำนึงว่า เราต้องการใช้คุณสมบัติแบบไหน ก็ควรเลือกถุงมือที่เด่นในด้านนั้น แต่ก็ต้องมามองด้วยว่า เรายอมรับข้อเสียของถุงมือนั้นได้หรือเปล่า

ยกตัวอย่างเช่น เราอยากได้ถุงมือที่แข็งแรง ทนทาน (ต้องการประหยัด) เราก็คงต้องเลือกถุงมือไนไตร แต่เราต้องแลกกับการทำงานที่ไม่คล่องตัวนะครับ ถ้าเราต้องการการทำงานที่คล่องตัว (dexterity) ด้วย การเลือกถุงมือแพทย์ หรือถุงมือเลเท็กซ์ (Latex Glove) ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าครับ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงอยากรู้ข้อเปรียบเทียบคุณสมบัติแบบตัวต่อตัวเลยว่า ด้านไหนใครเด่นกว่าใคร ใครเป็นอันดับ 1 2 หรือ 3 ทางผู้เขียนได้สรุปคุณสมบัติของถุงมือที่สำคัญๆ เอาไว้ในตารางเปรียบเทียบด้านล่าง โดยเป็นการเปรียบเทียบกับถุงมือที่มีความหนาเท่าๆกัน ผลคร่าวๆเป็นดังนี้ครับ

* มีคะแนนมาก คือ สูง, มาก เช่นปกป้องมือได้ดีมาก, โอกาสแพ้ยางมาก, ใส่สบายมาก, ยืดหยุ่นมาก, ราคาถูกมาก, ทนทานมาก เป็นต้น

หมายเหตุ: ตารางเปรียบเทียบแบบคร่าวๆเท่านั้น เพราะมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ผลอาจไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เช่นสูตร และ สารเคมีที่ผสมในถุงมือของแต่ละผู้ผลิต ความหนาบาง ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ อาจทำให้ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากผลในตารางครับ

 

 

 

 

สงวนลิขสิทธิ์บทความนะครับ

Similar Posts

  • ถุงมือไนไตรกับกระบวนการแปรรูปสุกร

    สุกร (swine) ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญมากในประเทศไทย ชาวไทยบริโภคสุกรเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังมีปริมาณมากพอที่จะส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้แก่กระเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปีอีกด้วย และการส่งออกสุกรนั้น สร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้องในส่วนต่างๆของ ห่วงโซ่อุปทานนี้ไม่น้อยในแต่ละปี ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร จนถึงผู้ค้าปลีกเนื้อสุกรในตลาด รวมถึงผู้ค้าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคสุกรและการเลี้ยงสุกรอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานอีกประเภทที่เราจะขาดเสียไม่ได้เลย ก็คือผู้ชำแหลและแปรรูปสุกร ซึ่งหากปราศจากขั้นตอนนี้แล้ว เราคงจะไม่มีเนื้อหรือส่วนต่างๆเอาไว้บริโภคเป็นแน่ และกระบวนการนี้มีความซับซ้อนมากกว่าการฆ่าและชำแหละเป็นชิ้นๆ การชำแหละและแปรรูปสุกรที่ถูกต้อง จะต้องคำนึงถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคและธรรมาภิบาลในการดูแลสัตว์อย่างถูกต้องตามหลักการและมาตรฐานอื่นๆที่จำเป็นอีกด้วย ปัจจุบันมีโรงงานผลิตและแปรรูปสุกรจำนวนมากกระจายอยู่ตามภาคต่างๆ โดยหลักการแล้วเราอาจสงสัยว่าโรงงานหรือกระบวนการแปรรูปสุกรที่มีคุณภาพนั้นเป็นอย่างไร กระบวนการแปรรูปสุกร ก่อนที่เราจะนำสุกรมาผ่านการแปรรูป เราต้องควบคุมคุณภาพเนื้อสุกรตั้งแต่เริ่มต้น ต้องเริ่มตั้งแต่การผสมพันธุ์ โดยในปัจจุบันจะใช้การผสมเทียม ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปที่ตัวแม่พันธุ์ และรอจนกระทั่งแม่สุกรคลอดลูกสุกรออกมา ในคราวหนึ่งจะคลอดประมาณ 10 ตัว หลังจากที่ลูกสุกรอยู่กับแม่สุกรไประยะหนึ่ง ก็จะแยกตัวลูกออกมาเลี้ยงในโรงอนุบาลลูกสุกรต่างหาก จนลูกสุกรเติบโตได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว ก็จะส่งไปโรงขุนเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ได้น้ำหนักที่ต้องการ เมื่อได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว ซึ่งปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณตัวละ 100 กิโลกรัม ก็จะทำการขายสุกรนั้นออกไปให้แก่โรงชำแหละ

  • สารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตภัณฑ์จากยางพารา

    ถุงมือยาง ผลิตมาจากยางพาราเป็นหลัก แต่ก็จะมีสารเคมีที่เกี่ยวข้องหลายตัว ทำหน้าต่างในกระบวนการหลายๆขั้นตอน บทความนี้กล่างถึงสารเคมีและอธิบายถึงหน้าที่ของสารเคมี ในการผลิณ ผลิตภัณฑ์จากยางพารา (บริษัทฯไม่มีสารเคมีจำหน่ายนะครับ)

  • คุณภาพยางแผ่นดิบ

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ คืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งผลิตขึ้นเพื่อป้องกัน หรือลดความอันตรายจากการใช้มือสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ โดยป้องกันอันตรายมือเรากับสิ่งของหรือป้องกันสิ่งของจากมือของเรา

  • ถุงมือแพทย์ชนิดไม่ฆ่าเชื้อ

    ถุงมือแพทย์ ชนิดไม่ฆ่าเชื้อ หรือถุงมือตรวจโรค แราศจากเชื้อ นิยมใช้ในงานทั่วไป ท่านสามารถติดต่อขอใบเสนอราคาและตัวอย่างได้ฟรีคครับ

  • แพ้ยาง! หากแพ้ถุงมือยาง ควรทำอย่างไร

    ถุงมือแพทย์ถุงมือแพทย์ที่ใช้ หากแพ้ยางจากถุงมือต้องทำอย่างไร? ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาตินั้น ได้มาจากต้นยางพารา ซึ่งเดิมจะเป็นน้ำยางมีลักษณะเป็นนของเหลวขุ่นข้น แล้วผ่านกระบวนการผลิตจนเป็นถุงมือยางชนิดถุงมือแพทย์ ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดปัญหาเรื่องการแพ้ยางกับผู้สวมใส่ อันที่จริงไม่ได้เกิดจากยางหรอกครับ แต่ปัญหาเรื่องการแพ้ยางจะเกิดเพราะโปรตีนที่อยู่ในยางธรรมชาติมากกว่า ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา โปรตีนจากยางธรรมชาติซึ่งใช้ในการผลิต ถุงมือยาง ถุงยาง ลูกโป่ง หนังยาง ยางลบ และของเล่น ได้สร้างปัญหาแก่ผู้สวมใส่ที่มีอาการแพ้ จวบจนกระทั่งในปี 1990 ได้มีกาคิดค้นยางสังเคราะห์ หรือยางธรรมชาติแบบชนิดไม่มีแป้งขึ้นมาได้ ทำให้ปัญหาเรื่องการแพ้แป้งลดลงไปอย่างมาก

  • ถุงมือไนไตร – ทำไมจึงเหมาะที่ใช้ในอุตสาหกรรมห้องเย็น

    สำหรับท่านที่อยู่ในอุตสาหกรรมห้องเย็น หรือประกอบกิจการทำงานในโรงงานที่ต้องใช้ห้องเย็น และหากท่านต้องใช้ถุงมือเพื่อการทำงาน ถุงมือไนไตรก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม บทความนี้ถึงข้อดีในการใช้ถุงมือไนไตรในอุตสาหกรรมห้องเย็นครับ