|

ถุงมือชนิดมีแป้งต่างจากชนิดไม่มีแป้งอย่างไร

ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ หรือถุงมือยางตรวจโรค นั้นในท้องตลาด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง  และ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง 

ซึ่งดูเผินๆแล้วคล้ายกันมาก เพราะ ออกสีขาวๆ เหมือนกัน แต่ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน ทั้งองค์ประกอบ, การใช้งาน และราคา และในบทความนี้เราจะมารู้จักถุงมือทั้ง 2 ชนิดกันครับ

รู้จักกับ ถุงมือยางธรรมชาติ

ถุงมือแพทย์ ตรวจโรคจากยางธรรมชาติ ชนิดมีแป้ง

แป้งที่ใส่ในถุงมือนั้น จะแป็นแป้งข้าวโพด (ที่ใช้ประกอบอาหาร) จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย แต่อาจมีบางท่านที่มีอาการแพ้แป้ง หากสวมใส่ถุงมือชนิดนี้ ก็อาจมีอาการแพ้แป้งเกิดขึ้นได้ครับ

สาเหตุที่ต้องใส่แป้งในถุงมือนั้น เนื่องจากต้องการให้ถุงมือลื่น สวมมือเข้าได้สะดวก และการใส่จะใส่ในปริมาณเล็กน้อย โดยใส่ด้านในของถุงมือ

เป็นถุงมือแพทย์ ที่พบได้บ่อยที่สุด ท่านจะเจอบ่อยมากตามโรงพยาบาล คลีนิค ตามร้านขายยาทั่วไป เนื่องจากเป็นถุงมือที่ราคาถูกที่สุด มีการใช้งานเยอะที่สุด ทางโรงงานจึงผลิตถุงมือชนิดนี้มากที่สุดด้วย

ถุงมือแพทย์ ตรวจโรคจากยางธรรมชาติ ชนิดไม่มีแป้ง

เป็นถุงมือที่พบได้น้อยกว่า จะพบตามโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ เป็นส่วนมาก จะมี ราคาสูงกว่า เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการขจัดแป้งออก (ต้นทุนจึงสูงกว่า) ข้อดีของถุงมือชนิดนี้คือ จะไม่มีแป้งอยู่ในถุงมือ จึงไม่มีผงแป้งร่วงหล่นใส่ในงานที่เราทำ เช่น หากทำอาหาร ก็จะไม่มีผงแป้งร่วงไปในอาหาร หากสวมถุงมือประกอบงานอิเล็กทรอนิกส์ ก็ไม่มีผงแป้งร่วงไปในแผงวงจร เป็นต้น กระบวนการขจัดแป้งออก หรือไม่ให้มีแป้งในถุงมือจะมีหลายวิธี เช่น Chlorination (ซึ่งยังแยกย่อยออกเป็นหลายวีธี) และวิธี Polymerization ซึ่งไม่ว่าวิธีใดต่างก็มีต้นทุนที่สูงกว่าทั้งสิ้น

ข้อแตกต่างระหว่างถุงมือทั้ง 2 ชนิด

ดังที่กล่าวมาแล้ว ถุงมือแพทย์ ทั้งสองแบบ ดูเผินๆแล้วคล้ายกันมาก เพราะ ออกสีขาวๆ เหมือนกัน แต่ทั้งสองแบบ มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน ทั้งองค์ประกอบ, การใช้งาน และราคา ข้อแตกต่างของถุงมือแพทย์ทั้ง 2 ชนิด มีดังนี้..

ต่างกันที่มีแป้งและไม่มีแป้ง

อันนี้ ค่อนข้างชัดเจน เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่ามีแป้งกับไม่มีแป้ง ถุงมือแพทย์ แบบมีแป้ง จะใส่ผงแป้ง (แป้งข้างโพด) เพื่อให้ลื่น สามารถสวมมือเข้าไปได้ หากผู้สวมใส่ถอดถุงมือ ออกมา ก็จะเห็นฝุ่นแป้งขาวๆ เกาะตามมือ

ต่างกันที่การใช้งาน

ถุงมือแพทย์ แบบไม่มีแป้ง จะไม่มีผงแป้งเลย ถุงมือจะผ่านกระบวนการขจัดแป้งออกและ จะถูกทำให้ลื่นเพื่อให้สวมมือเข้าไปได้ ด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน ทำให้ถุงมือ มีราคาแพงกว่า

ถุงมือแพทย์ ชนิดไม่มีแป้ง เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดมาก โดยไม่ต้องการให้ผงแป้งร่วงหล่นระหว่างสวมถุงมือทำงาน

ต่างกันที่ความสบายในการสวมใส่

ถุงมือแพทย์ ชนิดมีแป้ง เวลาสวมใส่ จะใส่ได้สบายกว่า เนื่องจากแป้งในถุงมือจะช่วยซับเหงื่อที่มือ ทำให้ทำงานได้นานกว่า

ต่างกันที่การแพ้แป้ง ในบางราย

สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แป้ง หากใช้ ถุงมือแพทย์ ชนิดมีแป้ง อาจทำให้อาการแพ้กำเริบ และเป็นอันตรายได้ (ขึ้นอยู่กับว่าแาการแพ้นั้น แพ้มากหรือน้อย) การสวมใส่ถุงมือแพทย์ ชนิดไม่มีแป้ง จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้

แต่หากผู้สวมใส่ แพ้โปรตีนในยางธรรมชาติ ไม่ควรใช้ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ โดยเด็ดขาด ควรใช้ถุงมือยางสังเคราะห์แทน

ต่างกันที่ถุงมือแป้ง ราคาถูกกว่า

ถุงมือแพทย์มีแป้ง มีกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน จึงมีราคาถูกกว่า นิยมใช้กันมากกกว่า

สรุปความแตกต่างระหว่าง ถุงมือแพทย์มีแป้งกับไม่มีแป้ง

  • มีผงแป้งกับไม่มีผงแป้ง – ถุงมือแพทย์แบบมีแป้งจะมีผงแป้ง แต่แบบไม่มีแป้งจะไม่มีผงแป้ง
  • การใช้งานต่างกัน – ถุงมือแพทย์แบบไม่มีแป้ง จะไม่มีผงแป้งร่วงหล่น เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาด
  • สวมใส่สบายต่างกัน – ถุงมือแพทย์แบบมีแป้งใส่สบายกว่า (แป้งช่วยซับเหงื่อที่มือ)
  • เกิดการแพ้แป้ง – คนที่แพ้แป้งอยู่เดิม ไม่ควรใช้ถุงมือแพทย์แบบมีแป้ง
  • ราคาต่างกัน – ถุงมือแพทย์แบบมีแป้ง ราคาถูกกว่า

Similar Posts

  • ถุงมือไนไตร : คืออะไร? เมื่อไหร่ควรใช้?

    ถุงมือไนไตร ประวัติและที่มา เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินถุงมือไนไตรมาบ้างนะครับ แม้ว่าบางท่านอาจไม่รู้จักมันเลย และเรียกชื่อผิดๆ เป็น ถุงมือไนโตร เพราะบ่อยครั้งมีบางท่านโทรมาถามว่า มีถุงมือไนโตร จำหน่ายหรือไม่ ก็คงไม่แปลกหากท่าน เรียกชื่อมันผิดๆถูกๆ เพราะเราไม่รู้คุ้นกับมันเท่าไหร่ เพราะถ้าเราพูดถึงถุงมือตรวจโรคชนิดใช้แล้วทิ้ง เกือบจะทุกท่านจะนึกถึงถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ เพราะเหตุผลหลายๆประการเช่น บ้านเราผลิตยางธรรมชาติได้มาก เราจึงคุ้นเคยกับยางธรรมชาติมากกว่ายางสังเคราะห์ ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ มีมานานกว่า เราจึงรู้จักถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติได้ดีกว่า ถุงมือยางธรรมชาติ มีราคาถูกกว่า จึงมีใช้กันมากกว่า ไปที่ไหนก็เห็น เราจึงคุ้นเคยกับมันมากกว่า ถุงมือไนไตรเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1980 (ราวปี พ.ศ. 2523) โดย นายนิล ทีลลีสัน (Neil Tillitson) และ นายลุค เดอร์เบกเกอร์ (Luc DeBecker) ต่อมาในปี 1990 ได้มีการพัฒนาเทคนิดและกระบวนการผลิต และมีการจดสิทธิบัตรในปี 1991

  • คุณภาพยางแผ่นดิบ

    ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติ คืออุปกรณ์ชนิดหนึ่งผลิตขึ้นเพื่อป้องกัน หรือลดความอันตรายจากการใช้มือสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ โดยป้องกันอันตรายมือเรากับสิ่งของหรือป้องกันสิ่งของจากมือของเรา

  • ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร คืออะไร

    ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร : เป็นอย่างไร ถุงมือไนไตรทุกวันนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยใช้กันในหลายๆวัตถุประสงค์ แต่วัตถุประสงค์หลักคือปกป้องมือของผู้สวมใส่ ทั้งจากสารพิษ สารเคมีและสารละลายต่างๆ ถุงมือยางไนไตรในปัจจุบันมีจำหน่ายหลายแบบและหลายขนาด หลาย texture โดยมีทั้งผิวหยาบและผิวเรียบ ซึ่งให้ความแตกต่างกันทั้งคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมี นั่นก็เพื่อวัตถุประสงค์การใช้ที่หลากหลายนั้นเอง ดังนั้นเมื่อจะเลือกซื้อถุงมือยางไนไตร ควรพิจารณาถึงประเด็นเรื่องการป้องกัน หรือปกป้องมือเป็นหลัก ตลอดจนควรพิจารณาถึงคุณภาพ ทั้งวัสดุที่ใช้ผลิต ความหนา การแพ้ถุงมือ เป็นต้น ถุงมือไนไตร ถุงมือยางไนไตร : ทำจากอะไร

  • แผ่นยางที่ผลิตจากยางสังเคราะห์เอาไปทำอะไรบ้าง

    ยางสังเคราะห์ ในปัจจุบัน มีหลายแบบมากเลยครับ เช่น IR, BR, CR, IIR, CIR, BIR, SBR, EPM, EPDM และ NBR (อันนีใช้ผลิตถุงมือไนไตร์ครับ) ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันไป เอามาผลิตวัสดุต่างๆเยอะแยะมากมาย บทความนี้จะกล่าวถึงประโยขน์ของยางแต่ละตัวว่าเอาไปทำอะไรบ้าง

  • ถุงมือแพทย์: ดีอย่างไร

    คุณผู้อ่านครับ สมมุติว่าวันนี้คุณได้งานใหม่ ต่ำแหน่งใหม่ หน้าที่ใหม่ และหน้าที่นี้คุณต้องเรียนรู้เรื่องถุงมือยาง เพราะคุณต้องสวมถุงมือแพทย์ตลอดเวลา คุณทราบไหมครับว่าถุงมือแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นถุงมือยางธรรมชาติ หรือถุงมือไนไตรก็ดีมีใช้กันมานานแล้ว โดยเฉพาะถุงมือแพทย์มีการใช้มาร่วมๆ 100 ปีแล้ว และสมัยนั้นก็มีการใช้ถุงมือกันทั่วๆไป (คล้ายปัจจุบันนี่แหละครับ) ถุงมือยางธรรมชาติ (Latex gloves) เป็นสิ่งที่ปกป้องมือคุณจากอันตรายต่างๆ ในหลายๆด้าน ได้อย่างดีเลยครับ ไม่ว่าคุณจะทำงานในโรงพยาบาล คลีนิค ที่ต้องสำผัสกับคนไข้ ห้องแลปทางการแพทย์ หรือแม้ว่า ถ้าคุณไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม คุณอาจต้องใช้ถุงมือแพทย์ หรือถุงมือธรรมชาติในไลน์การผลิต หรือในห้องแลป ผมเชื่อว่าหลายๆครั้ง คุณคงถามตัวเองว่า เอ…ฉันจะสวมถุงมือแบบไหนเพื่อป้องกันดี? ถุงมือแต่ละประเภทถูออกแบบมาใช้ในงานที่แตกต่างกันครับ งานหนัก งานเบา งานที่ควรใช้ถุงมือที่ทนทาน หรือบาง หรือหนา การเลือกใช้ถุงมือที่ถูกต้อง เป็นเป็นการป้องกันมือและช่วยในการทำงานได้ดีที่สุด ถุงมือยางธรรมชาติมีข้อดีคือมีความยืดหยุ่นมากกว่าถุงมือชนิดอื่น เนื่องจากเป็นถุงมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทำงานเหมือนกับมือเปล่ามากที่สุด แต่ก็สามารรถป้องกันมือเราจากเชื้อโรคและสารเคมีได้อย่างดีเยี่ยม คุณสมบัติเด่นของถุงมือยาง ชนิดถุงมือแพทย์คือ มีความยืดหยุ่น คล่องตัว สวมได้ทั้งซ้ายและขวา คุณสามารถสวมใส่ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาดูเลยว่า มันเป็นข้างไหน ซ้ายหรือขวา มันพอดีกับมือไหม (เพราะมันมีความยืดหยุ่นในตัว) ปัจจุบันมีร้านที่จำน่ายถุงมือแพทย์ราคาถูก โดยมีจำหน่ายถุงมือหลายชนิดให้เลือกมากมาย…

  • ถุงมือไนไตร : แล้วคุณจะลืมเรื่องการแพ้ยางไปเลย!

    สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็คือถุงมือยาง หรือถุงมือแพทย์ตามแต่จะเรียก คุณคงรู้ทันทีเลยว่าถุงมือแพทย์มีหน้าที่ป้องกันอันตรายขอเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ดังนั้นการเลือกใช้ถุงมือยางที่ดีที่สุด ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้ถุงมือที่สามารถป้องกันมือได้ดีที่สุด หนึ่งในถุงมือแพทย์นอกจากถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติแล้ว ก็คือถุงมือไนไตร ถุงมือยางในท้องตลาดทุกวันนี้มีมากมายหลายยี่ห้อ หลายแบบ แน่นอนครับ มันอาจจะยากสำหรับคุณ สำหรับผมในการที่จะเลือกซื้อถุงมือดีๆสักคู่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าอันไหนดีที่สุด เพราะในการจะตัดสินใจเลือกซื้อสักครั้ง ก็จะมีปัจจัยต่างๆที่ต้องนำมาพิจารณา แน่นอนครับ หลักๆก็ได้แก่ ระดับการป้องกันที่เราต้องการ, ถุงมือฟิตพอดีมือไหม? และท้ายสุดคือ ราคาเท่าไหร่ (อันนี้ก็สำคัญไม่น้อย) ถุงมือยางธรรมชาติบางทีอาจก่อให้เกิดปัญหาอาการแพ้ ซึ่งมีหลายระดับตั้งแต่น้อย(ผื่นคัน) ไปจนถึงมาก(ช็อค หมดสติ) ดังนั้นในปัจจุบัน ผู้ใช้จึงหันมานิยมใช้ถุงมือไนไตรหรือถุงมือไวนิลกันมากขึ้น เนื่องจากถุงมือไนไตรและถุงมือไวนิลเป็นถุงมือจำพวก Latex Free คือไม่มีส่วนผสมของยางธรรมชาติ ทำให้มีความปลอดภัยจากการแพ้ยางธรรมชาติ